วิเคราะห์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2024/25 สัปดาห์ที่ 2
วูล์ฟแฮมป์ตัน VS เชลซี
วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม 2567 เวลา 20.00 น.
สนาม : โมลินิวซ์ สเตเดียม
ถ่ายทอดสด : True Premier Football 1 , True Premier Football 2
ผู้ตัดสิน: Darren England
ผู้ช่วยผู้ตัดสิน: Nick Greenhalgh, Constantine Hatzidakis
ผู้ตัดสินที่ 4: Rob Jones
VAR: John Brooks
ผู้ช่วย VAR: Gary Beswick
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ2024/25 สัปดาห์ที่ 2 เกมนี้เป็นการพบกันของ “หมาป่า” วูล์ฟแฮมป์ตัน เปิดบ้าน โมลินิวซ์ สเตเดียม รับการเยือนของ “สิงห์บลู” เชลซี ในนัดแรกทั้งคู่เจอทีมแข็งมาทั้งคู่ โดยฝั่ง หมาป่า บุกไปโดนรองแชมป์เก่าอย่าง ปืนใหญ่ อาร์เซนอล ยิงไป 2 ลูก แบบหาจังหวะสู้ได้ไม่มากนัก โดยไอ้ปืนใหญ่ ได้ประตูจาก ไค ฮาแวร์ตซ์ และ บูกาโย่ ซาก้า จบเกมด้วยสกอร์ 2 – 0 ไม่มีคะแนนออกจากถิ่น เอมิเรต สเตเดียม ส่วนทางฝั่ง สิงห์บลู ในนัดแรกเปิดบ้านแพ้ให้กับ แชมป์เก่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไป 2 – 0 แบบแทบไม่มีอะไรจะทำอันตรายให้แก่ ซิตี้ สักเท่าไร ทำให้ยังไม่มีคะแนนเช่นกัน นัดนี้ทั้งสองต้องแย่งกันหาแต้มแรกของฤดูกาลให้ได้
ฟอร์มการเล่น 5 นัดหลังสุดของแต่ละทีม
วูล์ฟแฮมป์ตัน
แพ้ : อาร์เซนอล 2 – 0 วูล์ฟแฮมป์ตัน (พรีเมียร์ลีก)
ชนะ : วูล์ฟแฮมป์ตัน 0 – 1 ราโย บาเยกาโน่ (อุ่นเครื่อง)
ชนะ : วูล์ฟแฮมป์ตัน 3 – 0 อาร์เบ ไลป์ซิก (อุ่นเครื่อง)
แพ้ : คริสตัล พาเลช 3 – 1 วูล์ฟแฮมป์ตัน (อุ่นเครื่อง)
ชนะ : วูล์ฟแฮมป์ตัน 3 – 1 เวสต์แฮม (อุ่นเครื่อง)
เชลซี
ชนะ : เชลซี 2 – 0 คลับ อเมริกา (ยูโรป้า คอนเฟอเร้นส์ลีก)
แพ้ : เชลซี 0 – 2 แมน ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก)
เสมอ: เชลซี 1 – 1 อินเตอร์ มิลาน (อุ่นเครื่อง)
แพ้ : เรอัล มาดริด 2 – 1 เชลซี (อุ่นเครื่อง)
แพ้ : แมน ซิตี้ 4 – 2 เชลซี (อุ่นเครื่อง)
การพบกันของ 2 ทีม
2024 : เชลซี 2 – 4 วูล์ฟแฮมป์ตัน (พรีเมียร์ลีก)
2023 : วูล์ฟแฮมป์ตัน 2 – 1 เชลซี (พรีเมียร์ลีก)
2023 : วูล์ฟแฮมป์ตัน 1 – 0 เชลซี (พรีเมียร์ลีก)
2022 : เชลซี 3 – 0 วูล์ฟแฮมป์ตัน (พรีเมียร์ลีก)
2022 : เชลซี 2 – 2 วูล์ฟแฮมป์ตัน (พรีเมียร์ลีก)
ความพร้อมก่อนเกม
วูล์ฟแฮมป์ตัน
เกมนี้ วูล์ฟแฮมป์ตัน ที่คุมทีมมาโดย แกรี่ โอนีล ในเกมนี้ จะยังไม่มี เอนโซ กอนซาเลซ, ซาซ่า คาลัดจ์ซิช และ ลีออน ชิโวเน่ ที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บ นอกจากนั้น เนลสัน เซเมโด้ จะพ้นโทษแบนที่ค้างจากฤดูกาลก่อนกลับมาได้ในนัดนี้ คาดว่าเกมจะมาในแผน 3 – 5 – 2 ผู้รักษาประตู โจเซ่ ซา ลงเฝ้าเสา แผงแบ็กทรี แม็ตต์ โดเฮอร์ตี้, โตติ, เยอร์สัน มอสเกร่า แผงมิดฟิลด์ใช้ โรดิโก้ โกเมส, เจา โกเมส, มาริโอ เลอมินาร์, ฌองริคเนอร์ เบลเลการ์ด, รายาน เอต-นูรี และคู่กองหน้าใช้ ฮวาง ฮี ชาน กับ ยอร์เก้น สตรานด์ ลาร์เซ่น
นักเตะบาดเจ็บ : เอนโซ กอนซาเลซ, ลีออน ชิโวเน่, ซาซ่า คาลัดจ์ซิช
นักเตะติดโทษแบน :
ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามในระบบ 3 – 5 – 2 : โจเซ่ ซา – แม็ตต์ โดเฮอร์ตี้, โตติ, เยอร์สัน มอสเกร่า – โรดิโก้ โกเมส, เจา โกเมส, มาริโอ เลอมินาร์, ฌองริคเนอร์ เบลเลการ์ด, รายาน เอต-นูรี – ฮวาง ฮี ชาน, ยอร์เก้น สตรานด์ ลาร์เซ่น
เชลซี
เกมนี้ เชลซี ที่คุมทีมมาโดย เอ็นโซ่ มาเรสก้า กุนซือคนใหม่ของทีม ผลงานยังไม่ดีเท่าไร เกมนี้ยังไม่สามารถใช้งาน รีซ เจมส์ แบ็คขวากัปตันทีม ที่มีอาการบาดเจ็บ คาดว่าจะมาในระบบ 4 – 2 – 3 – 1 ผู้รักษาประตูใช้ โรเบิร์ต ซานเชซ แผงหลังสี่คนเป็น มาโล กุสโต้, โตซิน อดาราบิโอโย่, ลีวาย โคลวิลล์ และ มาร์ค คูคูเรย่า คู่กลางใช้ มอยเซส ไกเซโด กับ โรเมโอ ลาเวีย แนวรุกสามคนใช้ โคล พาลเมอร์, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู กองหน้าตัวเป้าใช้ นิโคลัส แจ็คสัน กลับมาประจำการ
นักเตะบาดเจ็บ : รีซ เจมส์
นักเตะติดโทษแบน : –
ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามในระบบ 4 – 2 – 3 – 1 : โรเบิร์ต ซานเชซ – มาโล กุสโต้, เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, ลีวาย โคลวิลล์, มาร์ค คูคูเรย่า – มอยเซส ไกเซโด, โรเมโอ ลาเวีย – โคล พาลเมอร์, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู – นิโคลัส แจ็คสัน
วิเคราะห์ความน่าจะเป็นของเกม
เกมนี้เป็นการพบกันของ วูล์ฟแฮมป์ตัน กับ เชลซี เป็นสองทีมที่ยังไม่มีแต้มในฤดูกาลนี้ ผลงาน 5 นัดหลังของแต่ละทีม วูล์ฟแฮมป์ตัน ดูดีกว่าเอาชนะมา 3 นัด และแพ้ 2 ขณะที่ เชลซี ชนะ 1 นัด เสมอ 1 นัด แพ้ 3 นัด ส่วนผลงานการพบกันของทั้ง 2 ทีม 5 นัดหลัง วูล์ฟแฮมป์ตัน ก็ยังดีกว่า เอาชนะไป 3 นัด เสมอ 1 นัด และ แพ้ 1 นัด ในเกมนี้ เชลซี มีตัวผู้เล่นที่ค่อนข้างดีกว่า ล่าสุดพึ่งได้ตัว เปโดร เนโต้ จาก วูล์ฟแฮมป์ตัน เองด้วย และเสริมกองหน้าอย่าง เจา เฟลิกซ์ เข้ามาเพิ่มอีกหนึ่งคน ทั้งคู่ต้องปรับปรุงวิธีการเข้าทำและจบสกอร์ให้ดีขึ้น จากสถิติที่ผ่านมา วูล์ฟแฮมป์ตัน ดูดีกว่า บวกกับการได้เล่นในบ้านด้วย คาดว่าเกมนี้ วูล์ฟแฮมป์ตัน จะสามารถเก็บได้อย่างน้อยหนึ่งแต้ม มีโอกาสเก็บถึง 3 แต้มด้วย
ผลการแข่งขันที่คาด
วูล์ฟแฮมป์ตัน 2 – 1 เชลซี
ที่มา : https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball
