ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด พลิกเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จหลังเปิดบ้านเอาชนะ เรือใบสีฟ้า แมนฯ ซิตี้ ได้สำเร็จโดยได้ประตูชัยในช่วงต่อเวลาพิเศษ เข้าไปพบกับหงส์แดง ลิเวอร์พูล คู่ปรับเก่าอีกครั้ง
“ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด จากสเปน เปิดสนามซานติอาโก เบร์นาเบว รับการมาเยือนของ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จากอังกฤษ โดยนัดแรก แมนฯ ซิตี้ เปิดบ้านชนะมาได้ก่อน 4-3
เปิดฉากครึ่งแรก นาทีที่ 4 เรอัล มาดริด ได้ลุ้นก่อน จากจังหวะที่ ดานี คาร์บาฆาล เปิดบอลจากฝั่งขวาเข้ากรอบเขตโทษ คาริม เบนเซมา ขึ้นโหม่งโล่งๆ หลุดกรอบอย่างน่าเสียดาย
เรือมาได้ลุ้นบ้าง จากจังหวะที่ เควิน เดอ บรอยน์ หยอดบอลมาให้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา วิ่งฉีก กาเซมีโร่ พร้อมตวัดยิงทางเสาขวา แต่กูร์กตัวส์ ปัดทิ้งออกไปได้
ต่อมานาทีที่ 40 กาเซมีโร่ จิ้มสกัดบอลทิ้งกลายเป็นตั้งให้ ฟิล โฟเด้น พักแล้วส่องไกลระยะ 25 หลาสวนทันที บอลมุดทำ ติโบต์ กูร์กตัวส์ รีบล้มตัวทุบทิ้งออกไป ก่อนจบครึ่งแรกไปในสกอร์นี้
ครึ่งผ่านมาถึงนาทีที่ 73 อิลคาย กุนโดกัน จ่ายบอลกลางสนามมาถึง แบร์นาร์โด้ ซิลวา กระชากกินระยะมาคนเดียวไหลปั้นไปทางขวา ริยาด มาห์เรซ บรรจงปั่นบอลโค้งหนีมือ ติโบต์ กูร์กตัวส์ เสียบทางเสาแรกพา เรือใบ ออกนำ 1-0
จากนั้นนาทีที่ 90 เรอัล มาดริด ตีเสมอเป็น 1-1 จากจังหวะเปิดบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย คาริม เบนเซมา ตวัดเข้ากลางให้ โรดรีโก ปรี่มาชาร์จเข้าไปไม่พลาด
ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 90+1 เรอัล มาดริด แซงนำ 2-1 จากจังหวะที่ ดานี คาร์บาฆาล เปิดบอลจากฝั่งขวาเข้ากรอบเขตโทษ และเป็น โรดรีโก คนเดิมขึ้นโหม่งเข้าไปตุงตาข่าย ก่อนจบ 90 นาทีในสกอร์นี้ ผลรวม 5-5 ต้องต่อเวลาพิเศษ
ช่วงต่อเวลาในนาทีที่ 95 เรอัล มาดริด ได้จุดโทษ เมื่อ คาริม เบนเซม่า โดน รูเบน ดิอาส เสียบร่วงในเขตโทษ และเป็น เบนเซม่า ลุกขึ้นมาสังหารเองไม่พลาด พา เรอัล มาดริด ขึ้นนำเป็น 3-1 และเป็นประตูชัยเพราะในช่วงเวลาที่เหลือทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้
จบเกม เรอัล มาดริด ชนะ แมนฯ ซิตี้ 6-5 ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศกับ ลิเวอร์พูล อดีตคู่ชิง เมื่อปี 2018