“เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี บุกไปเอาชนะ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ซึ่งเหลือ 10 คน หวุดหวิด 2-1 จากประตูของ กาเบรียล เฆซุส กับ เควิน เดอ บรอยน์ ในศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก
ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก 2019-20 รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก
เรอัล มาดริด 1-2 แมนฯ ซิตี
เป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซือ แมนเชสเตอร์ ซิตี ดร็อป เซร์คิโอ อกูเอโร กับ ราฮีม สเตอร์ลิง ที่เพิ่งหายเจ็บ นั่งสำรอง ส่ง กาเบรียล เฆซุส ยืนศูนย์หน้าตัวเป้า ประสานงาน ริยาด มาห์เรซ และ แบร์นาร์โด ซิลวา ล่าตาข่าย รีล มาดริด ที่มี คาริม เบนเซมา , อิสโก และ วินิซิอุส จูเนียร์ เป็นความหวังแนวรุก
แมนเชสเตอร์ ซิตี ทักทายจะแจ้งกว่า นาที 21 เควิน เดอ บรอยน์ แทงทะลุช่องให้ กาเบรียล เฆซุส ล็อกหลบ ราฟาเอล วาราน แล้วยิงด้วยขวา ธิโบต์ คูร์ตัวส์ นายทวาร ต้องปัดทิ้ง รีล มาดริด ตอบโต้ นาที 30 เฟอร์ล็องด์ เมนดี แบ็กซ้าย โยนให้ คาริม เบนเซมา โหม่งลงพื้น เอแดร์สัน นายทวาร ป้องกันไว้ได้
เริ่มครึ่งหลัง แชมป์ 13 สมัย ปลดล็อกนาที 60 นิโคลัส โอตาเมนดี เซ็นเตอร์แบ็ก เสียบอลตรงกลาง ทำให้ วินิซิอุส จูเนียร์ หลุดไปใส่พานให้ อิสโก ยิงสวน เอแดร์สัน ขึ้นนำ 1-0 อย่างไรก็ตาม ซิตี ทวงคืนนาที 78 เควิน เดอ บรอยน์ กระชากเจาะด้านซ้าย ตักให้ กาเบรียล เฆซุส โหม่งกระดอนพื้น ตีเสมอ 1-1
เข้าสู่นาที 82 รองจ่าฝูง พรีเมียร์ ลีก ได้จุดโทษ ราฮีม สเตอร์ลิง แตะหลบ ดานี คาร์บาฆัล แล้วถูกเสียบล้มลง เควิน เดอ บรอยน์ สังหารแซงนำ 2-1 สถานการณ์ เจ้าถิ่น ย่ำแย่นาที 86 เซร์คิโอ รามอส กัปตันทีม เสียฟาวล์ตัดเกม กาเบรียล เฆซุส ที่กำลังหลุดเดี่ยว ผู้ตัดสินชักใบแดงโดยตรง
จบเกม ทั้งคู่จะย้ายไปดวลกันต่อเลก 2 ที่สนาม เอติฮัด สเตเดียม วันที่ 17 มีนาคม ซึ่ง เรอัล มาดริด ต้องยิงคืนอย่างน้อย 2 ลูก เพื่อพลิกสถานการณ์เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย
รายชื่อ 11 ตัวจริง
เรอัล มาดริด : ธิโบต์ คูร์ตัวส์ , เซร์คิโอ รามอส , ราฟาเอล วาราน , เฟอร์ล็องด์ เมนดี , ดานี คาร์บาฆัล , คาเซมิโร , ลูกา โมดริช , เฟเดริโก บัลเบร์เด , คาริม เบนเซมา , อิสโก , วินิซิอุส จูเนียร์
แมนฯ ซิตี :เอแดร์สัน , เอย์เมอริค ลาปอร์ต , นิโคลัส โอตาเมนดี , เบนจามิน เมนดี , ไคล์ วอล์คเกอร์ , โรดรี , อิลคาย กุนโดกัน , เควิน เดอ บรอยน์ , กาเบรียล เฆซุส , แบร์นาร์โด ซิลวา , ริยาด มาห์เรซ
ผลฟุตบอล ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก 2019-20 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ประจำวันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์
ลียง 1-0 ยูเวนตุส
[1-0 ลูคัส ตูซาร์ต น.31]