โรมัน อบราโมวิช เจ้าของทีม เชลซี ว่าจ้าง “นิวยอร์ก แบงก์ เรน กรุ๊ป” ดำเนินการขายกิจการสโมสร ตามรายงานจาก “ซันเดย์ ไทม์ส” สื่อของประเทศอังกฤษ
ธนาคารประจำมหานครนิวยอร์ก ได้รับความไว้วางใจจาก “สิงโตน้ำเงินคราม” ด้วยผลงานขายหุ้น 13 เปอร์เซ็นต์ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี แชมป์เก่า พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ มูลค่า 265 ล้านปอนด์ (1.11 หมื่นล้านบาท) เมื่อปี 2015 พร้อมปักป้าย ทีมจากย่านลอนดอนตะวันตก มูลค่า 2,000 ล้านปอนด์ (8.4 หมื่นล้านบาท)
ไม่มีความชัดเจนว่า “เดอะ บลูส์” กำลังมองหานายทุนรายใหม่เข้าเทกโอเวอร์ หรือขายหุ้นของสโมสร ซึ่ง “เสี่ยหมี” ลงทุนซื้อมาด้วยเงิน 140 ล้านปอนด์ (5.86 พันล้านบาท) เมื่อปี 2003 ทว่า ปัจจุบันกำลังจะตกอยู่ภายใต้ร่มเงาของยักษ์ใหญ่อย่าง ซิตี หรือ ปารีส แซงต์ แซงต์ แชร์กแมง
นอกจากนี้ อังกฤษ ยังมีข้อพิพาททางการเมือง ประกาศคว่ำบาตร รัสเซีย เพื่อตอบโต้กรณีใช้สาร “โนวิโชก” ยาพิษออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท ทำร้าย เซอร์เก สกริปาล อดีตสายลับแดนหมีขาว กับ ยูเลีย บุตรสาว ที่เมืองซาลิสบิวรี เดือนพฤษภาคม เป็นเหตุให้ อบราโมวิช ชะลอโปรเจกต์ ขยายสนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ มูลค่า 500 ล้านปอนด์ (ราว 2.1 หมื่นล้านบาท)
“สิงห์บลูส์” ชวดโควตา ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ครั้งที่ 2 รอบ 3 ปีล่าสุด ทั้งๆ ที่ติดท็อป 4 ทุกฤดูกาล นับตั้งแต่ มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย นั่งบริหารสโมสร และอาจถูกบีบขาย เอเดน อาซาร์ จอมทัพดีกรีทีมชาติเบลเยียม ซึ่งเหลือสัญญาแค่ 1 ปี ช่วงเปิดตลาดฤดูร้อน ปี 2019
