เปิดรายชื่อ 4 นักเตะดังที่ทำผลงานปังตลอดทั้งปี แต่ดันไม่มีชื่อเข้าชิง บัลลงดอร์ ประจำปี 2024 แบบสุดค้านสายตา
วันที่ 5 กันยายน 2567 หลังจากที่มีการประกาศรายชื่อนักเตะ 30 คนสุดท้ายที่มีสิทธิ์ลุ้นคว้ารางวัล บัลลงดอร์ ประจำปี 2024 ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ออกมาต่างๆ นานาตามเคย โดยเสียงส่วนใหญ่ก็มักจะบอกว่ามีนักเตะจำนวนไม่น้อยที่มีส่วนสำคัญในการกวาดแชมป์หลายรายการ แต่ดันหลุดรายชื่อไปเสียอย่างนั้น
เริ่มจากหนึ่งในนักเตะที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาลอย่าง ลิโอเนล เมสซี เจ้าของ บัลลงดอร์ 8 สมัย ที่หลุดโผจากรายชื่อผู้เข้าชิงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2005 กล่าวก็คือ 19 ปีที่ผ่านมา เมสซี นั้นมีชื่อลุ้นเกียรติยศอันยิ่งใหญ่นี้มาโดยตลอด
แม้ว่าผลงานของ เมสซี ในวัย 37 จะร่วงโรยตามอายุขัยที่เพิ่มมากขึ้น แต่ด้วยฟอร์มกับ อินเตอร์ ไมอามี ใน เมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ ที่เจ้าตัวทำระดับ 12 ประตูกับอีก 9 แอสซิสต์จากการลงสนาม 12 นัด
บวกกับการสวมปลอกแขนกัปตันทีมพาพลพรรคฟ้าขาวผงาดคว้าแชมป์ โคปา อเมริกา 2024 ได้อย่างยิ่งใหญ่ หลายฝ่ายก็มองว่าเขาคู่ควรที่จะติด 30 คนสุดท้าย
สำหรับคนถัดมาที่หลายคนก็งงว่าหลุดโผได้อย่างไรก็คือ โรดริโก โกเอส ปีกตัวจี๊ดของ เรอัล มาดริด ที่สถาปนาตัวเองให้กลายเป็นหนึ่งในตัวรุกที่อันตรายที่สุดในยุคนี้ กดไป 17 ประตูกับ 9 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 51 นัดรวมทุกรายการ
พา “ราชันชุดขาว” ผงาดคว้าแชมป์ไปทั้งหมด 4 รายการ ได้แก่ ลาลีกา, ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก, ซูเปอร์ โกปา เด เอสปานญา และ ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ ซึ่งเพื่อนร่วมทีมของเขาต่างก็ตบเท้าเข้าไปลุ้นรางวัลกันถ้วนหน้า ไม่ว่าจะเป็น วินิซิอุส จูเนียร์, จู๊ด เบลลิงแฮม, ดานี การ์บาฆาล, โทนี โครส, อันโตนิโอ รูดิเกอร์ และ เฟเดริโก บัลเบร์เด
ส่งผลให้ โรดริโก ออกมาแสดงความไม่พอใจต่อเหตุการณ์ในครั้งนี้ด้วยการโพสต์รูปชูถ้วยรางวัลต่างๆ รวมถึงจังหวะทำประตูสำคัญตลอดปีที่ผ่านมา เพื่อเป็นสัญญาณบ่งบอกผู้ที่มีผลโหวตอยู่ในมือว่าพวกเขาได้ทำผิดพลาดครั้งใหญ่ลงไป
กลับมาที่ ทีมชาติอาร์เจนตินา กันบ้าง อีกหนึ่งกำลังสำคัญที่เปรียบดังอาวุธข้างกายของ เมสซี ก็คือ ฮูเลียน อัลวาเรซ ศูนย์หน้าสารพัดประโยชน์ที่ปัจจุบันย้ายไปค้าแข้งให้กับ แอตเลติโก มาดริด
ผลงานของเขาใน โคปา อเมริกา 2024 อาจจะไม่ได้เปรี้ยงปร้างเหมือนตอนพาพลพรรคฟ้าขาวคว้าแชมป์ ฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ แต่การลงสนามเป็นตัวจริงถึง 4 จาก 6 นัด พร้อมกับซัลโวไป 4 ประตู ก็น่าจะพอเป็นหลักฐานได้ว่าเขาคือหนึ่งในกำลังหลักของทีม
เท่านั้นยังไม่พอบทบาทของเขากับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในฤดูกาลที่ผ่านมาก็ถือว่าไม่น้อยหน้า ทดแทน เควิน เดอ บรอยน์ ที่บาดเจ็บยาวได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง กดไป 19 ประตูกับอีก 13 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 54 นัดรวมทุกรายการ พร้อมพา “เรือใบสีฟ้า” คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้ตามเคย
สำหรับคนสุดท้ายที่ใครหลายๆ คนอาจจะมองข้ามก็คือ เยเรมี ฟริมปง วิงแบ็กจอมบุกของ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ที่มีตัวเลขการทำประตูไม่น้อยหน้าผู้เล่นตัวรุกแม้แต่น้อย
ฤดูกาลที่ผ่านมาถือเป็นฤดูกาลประวัติศาสตร์ของ “ห้างขายยา” เพราะกวาดมาทั้งตำแหน่งแชมป์ บุนเดสลีกา แบบไร้พ่าย รองแชมป์ ยูฟ่า ยูโรปาลีก และ แชมป์ เดเอฟเบ โพคาล มิหนำซ้ำยังเปิดหัวฤดูกาลนี้ด้วยแชมป์ เดเอฟเอล ซูเปอร์คัพ อีกต่างหาก
แน่นอนว่าหนึ่งในคีย์แมนในแผนของ ชาบี อลอนโซ ก็คือแนวรับกราบขวารายนี้ที่กดไปถึง 14 ประตูกับอีก 12 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 47 นัดรวมทุกรายการ เรียกได้ว่าผลงานไม่ต่างจากผู้เล่นระดับเวิลด์คลาสแม้แต่น้อย
แต่ที่น่าเจ็บใจก็คือชื่อของเขากลับหลุดโผเสียอย่างนั้น ทั้งๆ ที่คู่หูวิงแบ็กอีกฝั่งอย่าง อเลฆานโดร กริมัลโด ก็อยู่ในรายชื่อผู้เข้าชิงด้วย
นับว่าเป็นอะไรที่น่าเสียดายจริงๆ สำหรับ 4 ชื่อที่กล่าวมาข้างต้น เพราะทุกคนนั้นคู่ควรที่จะได้มีสิทธิ์ไปร่วมงานประกาศรางวัลในปีนี้เป็นอย่างน้อย อันที่จริงบางคนนั้นผลงานดีพอที่จะมีลุ้นติด 10 คนแรกด้วยซ้ำ แต่ก็อย่างว่าตราบใดที่ยังใช้มนุษย์ที่ต่างก็มีความคิดเห็นส่วนตัวในการโหวต ผลที่ออกมามันก็มีโอกาสค้านสายตาอยู่เรื่อยไป
ที่มา : https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/otherleague/2812718