แมตช์ พรีวิว เรอัล มาดริด vs มึนเช่นกลัดบัค (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม)
วันพุธที่ 9 ธันวาคม 2563 เวลา 03.00 น.
ถ่ายทอดสด www.uefa.tv
ผลการพบกันล่าสุด
28/10/2020 มึนเช่นกลัดบัค 2-2 เรอัล มาดริด
ความพร้อมและสภาพทีม
เรอัล มาดริด
ความพร้อมในเกมนี้ ซีเนดีน ซีดาน เทรนเนอร์ชาวฝรั่งเศส จะได้ตัว เซร์คิโอ รามอส สลัดอาการบาดเจ็บกลับมาช่วยทีมอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เอแด็น อาซาร์, มาร์ติน โอเดการ์ด และ เฟเดรีโก้ บัลเบร์เด้ ยังคงต้องพักรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บ ถึงแม้ว่าล่าสุด ดานี่ การ์บาฆาล ได้กลับมาฝึกซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่เจ้าตัวก็คงจะยังไม่พร้อมช่วยทีม ทำให้ ลูคัส บาสเกซ ต้องถอยลงมายืนแบ็กขวาต่อไป
การจัดทัพคาดว่า ลูก้า โมดริช จะได้บัญชาแดนกลางร่วมกับ โทนี่ โครส และ คาเซมิโร่ ขณะที่ มาร์โก อเซนซิโอ ก็จะได้ผนึกกำลังในแดนหน้าร่วมกับ คาริม เบนเซม่า และ วินิซิอุส จูเนียร์
มึนเช่นกลัดบัค
สภาพทีมในเกมนี้ มาร์โค โรเซ่อ เทรนเนอร์ของทีม อาจไม่สามารถใช้งาน โทนี่ ยันท์ชเค่อ และ นิโค เอลเวดี้ ทำให้ คริสตอฟ คราเมอร์ มีโอกาสสูงที่จะถูกถอยลงมาประจำการในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็ก และ เดนิส ซาคาเรีย จะยืนคุมแดนกลาง
ส่วนในตำแแหน่งแบ็กซ้าย สิงห์หนุ่ม คงจะใช้งาน ออสการ์ เวนด์ท ต่อไปหลังจากที่ รามี่ เบนเซไบนี่ ยังคงโดนเชื้อโควิด-19 เล่นงานอยู่ในเวลานี้ ส่วนในแนวรุก มาร์คัส ตูราม จะได้ลงสนามเป็นตัวจริงหลังได้พักในเกมกับ ไฟร์บวร์ก
ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เรอัล มาดริด เรอัล มาดริด (4-3-3) : ติโบต์ กูร์กตัวส์ – ลูคัส บาสเกซ, ราฟาแอล วาราน, เซร์คิโอ รามอส, แฟร์กล็องด์ เมนดี้ – คาเซมิโร่, โทนี่ โครส, ลูก้า โมดริช – มาร์โก อเซนซิโอ, คาริม เบนเซม่า, วินิซิอุส จูเนียร์
มึนเช่นกลัดบัค (4-2-3-1) : ยันน์ ซอมเมอร์ – สเตฟาน ไลเนอร์, มัทธีอัส กินเตอร์, คริสตอฟ คราเมอร์, ออสการ์ เวนด์ท – เดนิส ซาคาเรีย, ฟลอเรียน นอยเฮาส์ – วาเลนติโน่ ลาซาโร่, ลาร์ส สตินเดิ้ล, มาร์คัส ตูราม – อเลสซาน เพลอา
ผู้ตัดสิน : บียอร์น ไคเปอร์ส (ฮอลแลนด์)
ความน่าจะเป็นของเกม
เรอัล มาดริด ได้ เซร์คิโอ รามอส กลับมาแล้ว แนวรับน่าจะดีขึ้น แม้ฟอร์มช่วงหลังจะไม่น่าประทับใจเท่าไหร่ แต่ประสบการณ์ของพวกเขาในเกมยุโรปก็มักจะเอาตัวรอดได้เสมอ ด้าน มึนเช่นกลัดบัค ยังดูเป็นรองอยู่ ราชันชุดขาวยังคงต้องเดินหน้าบุกเพื่อชัยชนะที่มีผลต่อการเข้ารอบ
ผลการแข่งขันที่คาด : เรอัล มาดริด ชนะ 2-1