ฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ตั้งเป้ากลับมาแข่งแมตช์ที่เหลือของฤดูกาล 2019-20 ต่อโดยจะแข่งในสนามแบบปิด ตั้งแต่สุดสัปดาห์แรกของเดือนพฤษภาคม เพื่อให้สิ้นสุดภายในวันที่ 12 กรกฎาคม
แนวคิดดังกล่าว ซึ่งจะถูกนำมาหารือกับ 20 สโมสรระดับลีกสูงสุด วันศุกร์ที่ 3 เมษายนนี้ และจำเป็นต้องผ่านความเห็นชอบของ รัฐบาล, หน่วยงานสาธารณสุข และสมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ (PFA) เพื่อบรรเทาวิกฤติด้านการเงิน และความเสี่ยงถูกฟ้องร้องตามกฎหมาย หลังพักการแข่งขันชั่วคราว เนื่องจาก ไวรัสโคโรนา ระบาด
ข้อดีของทางออกกลับมาแข่งต่อ เดือนพฤษภาคม เนื่องจากข้อผูกมัด และค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 3 พันล้านปอนด์ (ราว 1.2 แสนล้านบาท) ครบกำหนดวันที่ 31 ก.ค. ก่อนเริ่มฤดูกาลใหม่
เชื่อกันว่า เงื่อนไขของสัญญากับสถานีโทรทัศน์ จะต้องตัดยอด วันที่ 16 กรกฎาคม และกรณีไม่สามารถแข่งขันจนจบตามกำหนด “สกาย สปอร์ตส” กับ “บีที สปอร์ตส” ตลอดจนผู้ถือลิขสิทธิ์ต่างแดน จะเรียกร้องค่าเสียหายรวมกัน 762 ล้านปอนด์ (3.05 หมื่นล้านบาท)
สถานีโทรทัศน์ต่างๆ ร่วมกันกดดัน พรีเมียร์ ลีก ให้ออกมายืนยันโดยเร็วสุด หลังสูญเสียผู้ติดตามอย่างรวดเร็ว และเรียกร้องคำตอบว่า จะกลับมาฟาดแข้งตามปกติเมื่อใด
ขั้นตอนการประชุมอย่างไม่เป็นทางการของ ผู้บริหารสโมสร ช่วง 2-3 วันล่าสุด พบว่า วันที่ 12 กรกฎาคม น่าจะเป็นกำหนดปิดฤดูกาล และจะลงเตะกันต่อ วันที่ 2 พฤษภาคม ถูกกำหนดขึ้นเผื่อเกิดเหตุระบาดซ้ำสอง กรณีสโมสรใดสโมสรหนึ่งประสบปัญหานักเตะติดเชื้อเพิ่ม
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความชัดเจนว่า โปรแกรมที่คาดไว้ จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ พิจารณาจากความเห็นของ เจนนี แฮร์รีส รองหัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์ เตือนว่า ประเทศจะต้องอยู่ภายใต้นโยบายล็อกดาวน์หลายๆ ระดับนานกว่า 6 เดือน