ข้อดีเพียบ เฉลยเหตุ “ลิเวอร์พูล” เลือก “อโมริม” กุนซือใหม่แทน “คลอปป์” หลังตกลงส่วนตัวแล้ว

 

ข้อดีเพียบ เฉลยสาเหตุ ลิเวอร์พูล เลือก “รูเบน อโมริม” มาเป็นกุนซือคนใหม่แทน คลอปป์ หลังบรรลุข้อตกลงส่วนตัวแล้ว

วันที่ 9 เมษายน 2567 อาเบล ซาเวียร์ อดีตกองหลังทีมชาติโปรตุเกส และที่เคยเล่นในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ กับ ลิเวอร์พูล ให้สัมภาษณ์ล่าสุดกับ บีบีซี สปอร์ต หลังจาก “หงส์แดง” ใกล้ได้ รูเบน อโมริม มาเป็นกุนซือคนใหม่แทน เยอร์เกน คลอปป์

ทั้งนี้ สกาย สปอร์ตส เยอรมนี รายงานว่า รูเบน อโมริม วัย 39 ปี ได้บรรลุข้อตกลงส่วนตัวทางวาจากับ ลิเวอร์พูล เรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะเซ็นสัญญากัน 3 ปี เหลือเพียงเจรจากับ สปอร์ติง ลิสบอน จ่าฝูงลีกโปรตุเกส เพื่อตกลงค่าฉีกสัญญาเท่านั้น

ด้าน อาเบล ซาเวียร์ ซึ่งเป็นชาวโปรตุเกสเหมือนกับ รูเบน อโมริม พูดถึงสาเหตุที่ ลิเวอร์พูล เลือกมาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ต่อจาก เยอร์เกน คลอปป์ หลังจบฤดูกาลนี้ว่า “ผมรู้จักเขาดีมาก เขาถ่อมตัวมาก สุขุม และมีความคิดที่ชัดเจนมาก”

“การสื่อสารของเขาในโปรตุเกสมีความซื่อสัตย์และเปิดกว้างมาก บางครั้งในฐานะโค้ช เราจำเป็นต้องสร้างสมดุลในการสื่อสารระหว่างภายในและภายนอก แต่เขาพูดได้อย่างอิสระ เขาปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้ แต่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงความเชื่อมั่น”

“ประการแรก ปรัชญาของ สปอร์ติง ลิสบอน เน้นการสร้างทีมจากอะคาเดมี่และการก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ รูเบน ยังประสานงานกับการพัฒนาเยาวชนด้วย เขารู้ดีว่าผู้เล่นบางคนมีคุณสมบัติอย่างไร”

“ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ก่อน รูเบน จะเข้ามา พวกเขาทุ่มทุนสร้างมากขึ้นและสโมสรก็ไม่ได้แชมป์อะไรเลย แต่ด้วยการเซ็นสัญญากับ รูเบน ทำให้พวกเขากลับมาสู่อัตลักษณ์นี้อีกครั้ง”

“ขณะที่ปรัชญาของ ลิเวอร์พูล ไม่เคยเซ็นสัญญากับนักเตะที่ดีที่สุดในโลก พวกเขาสามารถจ่ายได้ แต่ถ้าคุณเห็นภายใต้การคุมทีมของ คลอปป์ พวกเขาต้องการมีทีมที่เล่นร่วมกันได้ดีที่สุดในโลก”

“ผมคิดว่าแนวทางของ รูเบน คล้ายกันมาก ผมเคยเล่นที่ลิเวอร์พูล และผมรู้ถึงสภาพจิตใจและเอกลักษณ์ที่ชัดเจน

“ด้วยความเคารพต่อ สปอร์ติง ลิสบอน ผมอยากเห็น รูเบน อโมริม ที่ลิเวอร์พูล และผมคิดว่าเขาจะเป็นการเซ็นสัญญาครั้งสำคัญ เกี่ยวกับความสำคัญในการค้นหาคนที่ถูกต้องต่อจาก คลอปป์”

รูเบน อโมริม มีลุ้นคว้า 2 แชมป์ส่งท้ายกับ สปอร์ติง ลิสบอน ในฤดูกาลนี้ โดยล่าสุดนำจ่าฝูงลีกโปรตุเกส ทิ้งห่าง เบนฟิกา เพิ่มเป็น 4 แต้ม โดยแข่งน้อยกว่า 1 เกม และเหลือโปรแกรมในมืออีก 7 นัด ส่วนโปรตุกีส คัพ ก็เข้ารอบชิงชนะเลิศแล้วด้วย

 

ที่มา : https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premierleague/2777285