ทางการ “เลสเตอร์” แต่งตั้ง “กุนซือใหม่” แล้ว “อัยยวัฒน์” เผย 4 เหตุผลเป็นคนที่ใช่

 

เลสเตอร์ ซิตี้ ประกาศแต่งตั้งกุนซือคนใหม่แทน เอ็นโซ มาเรสกา แล้ว “อัยยวัฒน์ เผย 4 เหตุผลเป็นคนที่ใช่

วันที่ 20 มิถุนายน 2567 สโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ประกาศแต่งตั้ง สตีฟ คูเปอร์ เข้ารับหน้าที่ผู้จัดการทีมคนใหม่ของสโมสร ต่อจาก เอ็นโซ มาเรสกา ที่ย้ายไป เชลซี หลังเลื่อนชั้นกลับมาเล่นในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2024-25

สตีฟ คูเปอร์ วัย 44 ปี เซ็นสัญญา 3 ปีกับสโมสร และจะรับหน้าที่ผู้จัดการทีมเลสเตอร์ ซิตี้ ลุยศึกพรีเมียร์ลีกฤดูกาลใหม่ หลังคว้าแชมป์ฟุตบอลแชมเปียนชิพ เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา โดยก่อนรับงานคุมทีม “จิ้งจอกสยาม” สตีฟ มีประสบการณ์ในการคุมทีม น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ลุยศึกพรีเมียร์ลีก ระหว่างปี 2021-2023 มาแล้ว

อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ กล่าวว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ต้อนรับ สตีฟ สู่สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ 1. วิสัยทัศน์ของเขาจะเป็นบทบาทสำคัญสำหรับสโมสร 2. รวมถึงความสามารถของเขาในการพัฒนานักเตะ 3. และสไตล์การเล่นที่สอดคล้องกับแนวทางของเรา”

“4. เขามีความเป็นผู้นำ มีความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแฟนบอลกับทีม ซึ่งความสัมพันธ์ในรูปแบบนี้จะ
มีความสำคัญอย่างยิ่งในการกลับมาเล่นในพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง”

สตีฟ คูเปอร์ ผู้จัดการทีมคนใหม่ของเลสเตอร์ ซิตี้ กล่าวว่า “ผมรู้สึกตื่นเต้นและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการทีมของ เลสเตอร์ ซิตี้ นี่คือสโมสรที่ยอดเยี่ยม มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน และมีแฟนบอลที่ยอดเยี่ยม ผมรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับทีมที่มีความสามารถเช่นนี้ ผมตั้งตารอที่จะมีประสบการณ์ที่ดีร่วมกันในพรีเมียร์ลีก ที่จะเริ่มต้นฤดูกาลนี้”

สตีฟ เกิดที่เมือง พอนตีพริดด์ ใน เวลส์ เขาเป็นหนึ่งในโค้ชที่อายุน้อยที่สุดที่คว้ารางวัล ยูฟ่า โปรไลเซนส์ ในวัย 27 ปี ขณะที่เป็นโค้ชให้กับ เร็กซ์แฮม

สตีฟ ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายพัฒนาเยาวชนที่ เร็กซ์แฮม เพื่อร่วมงานกับ ลิเวอร์พูล ในตำแหน่ง โค้ชอะคาเดมี่ ในเดือนกันยายน ปี 2008 และต่อมาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการอะคาเดมี่ โดยเป็นโค้ชทีมรุ่น U-18 ของสโมสรระหว่างฤดูกาล 2012/13

เดือนตุลาคม ปี 2014 สตีฟ รับหน้าที่คุมทีมชาติอังกฤษ U-16 ก่อนได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการทีม รุ่น U-17 ในปีถัดมา สตีฟ พาทีม “สิงโตคำราม U-17” ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศของศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รุ่น U-17 ในเดือนพฤษภาคม ปี 2017 ก่อนที่ สตีฟ จะพาทีมชาติอังกฤษ U-17 คว้าแชมป์ฟุตบอลเยาวชนโลก U-17 ในอีก 5 เดือนต่อมา

สตีฟ รับตำแหน่งหัวหน้าโค้ชให้กับ สวอนซี ซิตี้ ในเดือนมิถุนายน ปี 2019 และพาทีมจบอันดับที่ 6 ในฤดูกาลแรกที่เขาคุมทีม โดย สวอนซี พ่าย เบรนท์ฟอร์ด ทั้งสองนัดในรอบรองชนะเลิศเพลย์ออฟ

จากนั้น สตีฟ พาทีม “หงส์ขาว” คว้าอันดับ 4 ในศึกแชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาลถัดมา และพาทีมของเขาเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ เพลย์ออฟ ซึ่งในท้ายที่สุด สวอนซี ต้องพ่ายแพ้ต่อ เบรนท์ฟอร์ด อีกครั้ง ที่สนาม “เวมบลีย์”

เดือนกรกฎาคม ปี 2021 สตีฟ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทีม น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ในเดือนกันยายน ปีเดียวกัน เขาพา ฟอเรสต์ จากทีมอันดับท้ายตาราง แชมเปี้ยนชิพ ไปจบอันดับที่ 4 ในฤดูกาลแรกที่เขาคุมทีม ก่อนพาทีม “เจ้าป่า” เลื่อนชั้นกลับคืนสู่พรีเมียร์ลีก จากการเอาชนะ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ในนัดชิงชนะเลิศ เพลย์ออฟ

สตีฟ คูเปอร์ พา น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ อยู่รอดในพรีเมียร์ลีก ในฤดูกาล 2022/23 ก่อนจะอำลาสโมสรไปในเดือนธันวาคม ปี 2023

 

ที่มา :  https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premierleague/2794805