เจอร์เกน คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล ออกมาตำหนิ วิดีโอช่วยตัดสิน (VAR) ว่าสร้างจุดเปลี่ยนของเกม เป็นเหตุให้พ่าย เลสเตอร์ ซิตี หมดรูป 1-3 พร้อมยอมรับหมดทางป้องกันแชมป์แน่นอนแล้ว
แม้หงส์แดงจะพังประตูขึ้นนำจาก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แต่ถูก จิ้งจอกสยาม ตามยิงคืน 3 ลูกรวด ภายในระยะเวลาห่างกัน 7 นาทีกลับมาเอาชนะไปได้
“ใช่ ผมไม่อยากจะเชื่อ แต่มันเกิดขึ้นแล้ว ภาพรวมของเกมวันนี้ ค่อนข้างน่าพอใจ แต่เราต้องหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาด และความไม่เข้าใจกัน”
เกิดประเด็นดราม่า VAR ริบจุดโทษคืนจาก เลสเตอร์ฯ เหลือฟรีคิก จังหวะ ติอาโก อันคานทารา ทำฟาวล์ ฮาร์วีย์ บาร์นส เนื่องจากทั้งคู่ปะทะกันนอกเขต
เจมส์ แมดดิสัน ยิงลักไก่เสียบมุมเสาไกล แต่ผู้กำกับเส้นยกธงว่า แดเนียล อมาร์ตีย์ ที่พยายามชาร์จ่อๆ ล้ำหน้า แต่ผู้ตัดสินรีวิวเหตุการณ์ แล้วยืนยันว่าเป็นประตู
บิ๊กบอสชาวเยอรมัน กล่าว “เราเสียประตูแบบไม่น่าเสีย ผมบอกแบบนี้หลายครั้ง VAR เป็นสิ่งที่ควรมีความเที่ยงตรง 100 เปอร์เซ็นต์ แต่มันไม่ใช่ เพราะใครบางคนต้องตัดสิน ไม่ว่ามันจะล้ำหน้าหรือไม่ และเหตุการณ์ไหนควรตัดสินว่าเป็นลูกล้ำหน้า”
“ผมเห็นรีเพลย์มาหลายครั้ง และสิ่งที่ผมเห็น คือ แมดดิสัน ยังไม่ได้สัมผัสบอล ตอนที่เขาตัดสินเหตุการณ์นั้น นั่นเป็นเหตุการณ์ที่ สจวร์ต แอตต์เวลล์ (ผู้ตัดสิน VAR) ต้องชี้แจงว่า ทำไมถึงเลือกจังหวะนั้น”
คล็อปป์ ถูกจี้ให้ขยายความ แอตต์เวลล์ เลือกหยุดภาพผิดจังหวะ “ใช่ แน่นอน เท้าของเขา (แมดดิสัน) ยังอยู่หลังลูกฟุตบอล ดังนั้นจะรู้ได้อย่างไรว่า เขาเตะลูกออกไปแล้ว อีกเสี้ยววินาทีต่อมา นักเตะ เลสเตอร์ฯ 3 คน วิ่งเข้าหาประตู นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น”
