หนังม้วนเดิม หงส์ดวลเป้าดับสิงห์บลูส์ ซิวเอฟเอ คัพ

 

หงส์แดง ลิเวอร์พูล ฉายภาพซ้ำด้วยการดวลจุดโทษเอาชนะ เชลซี หลัง 120 นาทีทำอะไรกันไม่ได้คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพไปครอบครอง ซ้ำรอยนัดชิง คาราบาว คัพเมื่อ 3 เดือนก่อน

เปิดฉากครึ่งแรกทั้งสองทีมเปิดเกมแลกกันอย่างสนุก มีโอกาสด้วยกันทั้งคู่ แต่ยังทำอะไรกันไม่ได้ จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ยังเสมอ เชลซี อยู่ 0-0 โดยที่ ลิเวอร์พูล ต้องเสีย โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่มีอาการบาดเจ็บ จนต้องถูกเปลี่ยนตัวและส่ง ดิโอโก โชตา ลงมาแทน ตั้งแต่นาทีที่ 33 ซึ่งต้องเช็กอีกครั้งว่าจะหายทันนัดชิง แชมเปี้ยนส์ ลีก หรือไม่

ครึ่งหลังเชลซีเริ่มบุกกดดันมากขึ้นและได้ลุ้นจากหลายๆ จังหวะ แต่ก็ยังไม่สามารถใส่สกอร์ได้ทั้งสองทีมยังสร้างสรรค์โอกาสกันต่อเนื่อง

นาทีที่ 48 เชลซี ได้ฟรีคิกข้างเขตโทษฝั่งขวา และเป็น มาร์กอส อลอนโซ ตัดสินใจยิงทันที ร้อนถึง อลิสซง เบคเกอร์ ปัดไปชนคาน ได้หวุดหวิด

ท้ายเกมลิเวอร์พูล มีโอกาสขึ้นนำสุดๆ ถึงสองครั้ง จังหวะแรกซาดิโอ มาเน จ่ายบอลเข้าเขตโทษฝั่งขวาให้ หลุยส์ ดิอาซ ซัดเน้นๆ บอลพุ่งชนเสานอกออกไปอย่างน่าเสียดาย จังหวะที่สอง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ได้ชาร์จจ่อๆ ที่เสาสองแต่บอลก็ยังชนเสาอีกครั้ง จบ 90 นาที เสมอกันไป 0-0

ช่วงต่อเวลาพิเศษ 30 นาที ต่างฝ่ายต่างก็ระมัดระวังตัวและไม่สามารถทำประตูกันได้ทำให้ต้องตัดสินด้วยการยิงจุดโทษ โดยฝั่งเชลซี ยิงพลาดสองคนคือ เซซาร์ อัซปิลิกูเอตา และ เมสัน เมาท์ ส่วนฝั่งหงส์แดง เป็น ซาดิโอ มาเน่ ที่ยิงพลาด ทำให้ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เชลซี ในการดวลจุดโทษไป 6-5 คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ไปครอง และเป็นแชมป์ที่สองของซีซั่นนี้