ต้องบอกว่าสถานการณ์หลังพิงฝาสุดๆ สำหรับ “เอริก เทน ฮาก” ดั่งชีวิตที่มี แขวนไว้บนด้ายบางๆ ไม่รู้ว่ามันจะขาดเมื่อไหร่ กับผลงานที่พา “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกสตาร์ต ซีซั่น 2024-25 ได้อย่างเลวร้าย
แม้จะวอดวาย เทงบประมาณมหาศาล ทะลุ 600 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 26,126 ล้านบาท นำเข้าผู้เล่นอย่าง อ็องเดร โอนานา, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, คาเซมิโร, แอนโทนี, ไทเรลล์ มาลาเซีย, ราสมุส ฮอยลุนด์, เมสัน เมาท์, โจชัว เซิร์กซี, เลนี โยโร, มัตไธส์ เดอ ลิกต์, นุสแซร์ มาสซราวี ตลอดจน มานูเอล อูการ์เต ฯลฯ
จากการเสริมทัพดังกล่าว ที่หลายดีลได้รับการยกย่องว่าเป็นการดีลที่ยอดเยี่ยม และน่าจะเข้ามายกระดับทีมให้แข็งแกร่งขึ้นจนพาทีมทำผลงานติดลมบนได้ไม่ง่าย แต่ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ต่างจากสิ่งที่ถูกคาดหวังไว้เอาไว้อย่างสิ้นเชิง ในศึก ยูฟ่า ยูโรปาลีก ก็นับว่าน่าผิดหวังในระดับหนึ่งแล้ว จากการรั้งอันดับ 21 มีแค่ 2 แต้มจาก 2 เกม
ทว่าใน พรีเมียร์ลีก กลับน่าผิดหวังมากกว่าหลายเท่าตัว เมื่อ รั้งอันดับที่ 13 ของตาราง มีแค่ 7 คะแนน จากการลงสนาม 6 นัด มีคะแนนมากกว่า “อินทรีผงาด” คริสตัล พาเลซ ทีมอันดับ 18 ซึ่งเป็นทีมในพื้นที่โซนอันตรายแค่ 4 คะแนนเท่านั้น ตามหลัง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ทีมจ่าฝูงไปแล้ว 8 คะแนน บอกตามตรง เลิกคุยโอกาสลุ้นแชมป์ได้เลย ถ้าสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้
จริงๆ แล้ว อนาคต เอริก เทน ฮาก ในบทบาทแม่ทัพของ ยอดทีมสีแดงแห่งเมืองแมนเชสเตอร์ เกือบจะขาดสะบั้นไปแล้ว ถ้าไม่ได้ถ้วยแชมป์ เอฟเอ คัพ 2023-24 จากการเอาชนะ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพื่อนร่วมเมือง 2-1 มาช่วยชีวิตเอาไว้ เมื่อปลายซีซั่นก่อน
อดีตกุนซือ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ประเมินตัวเองไว้สูงพอสมควร จากผลงาน 2 แชมป์ 2 ปี หลังจากที่ซีซั่นแรก สามารถคว้าแชมป์ คาราบาวคัพ อังกฤษ 2022-23 มาครอง ซึ่งถือเป็นโทรฟี่ใบแรกของตัวเขากับทีม นั่นทำให้เชื่อว่าตัวเองสมควรที่จะได้รับความชอบธรรมในการกุมบังเหียนทีมต่อไป ด้วยการระบุว่าให้ตัดสินผลงานของเขาตอนจบฤดูกาล
ทว่าในแง่ของแนวทางการเล่น ดูค่อนข้างสะเปะสะปะ ไร้ทิศทางการเล่นที่ชัด แม้จะดูเหมือนว่าจะเน้นการขึ้นเกมแบบ บิลด์อัป จากแดนหลังตามแบบฉบับของฟุตบอลสมัยใหม่ แต่มันไม่ได้ใกล้เคียงเลยแม้แต่น้อยถ้ามองในแง่ประสิทธิภาพ
ถ้ามองจากภาพรวมสัปดาห์ที่ผ่านมา เอริก เทน ฮาก เจอความกดดันท่ีว่ากันว่าอาจถึงขีดสุด กับผลงานการเปิดสนาม โอลด์ แทรฟเฟิร์ด แพ้คาบ้านให้กับ “ไก่เดือยทอง” ทอตแนม ฮอตสเปอร์ 0-3 แม้จะเหลือผู้เล่น 10 คน จากการที่ บรูโน เฟอร์นันเดส โดนใบแดงจากการเข้าอันตรายใส่ เจมส์ แมดดิสัน ในช่วงท้ายครึ่งแรก (ตอนหลังยกเลิกโทษแบน 3 นัด เพราะอุทธรณ์ผ่าน)
ด้วยรูปเกมในวันนั้น ต่อให้มีผู้เล่นเท่ากันก็ยากที่จะรอดพ้นจากการปราชัย เพราะทีมเป็นรองทีมเยือนของ อังเก ปอสเตโคกลู แบบสุดกู่ ชนิดที่โดนบุกกดดันจนแบบโงหัวไม่ขึ้น และการบุกไปเสมอ เอฟซี ปอร์โต 3-3 ทั้งๆ ที่นำห่าง 2-0 โดนยิงทีเดียว 3 ลูกตามหลัง 2-3 ก่อนจะไล่ตีเสมอแบบหืดจับ แถม บรูโน เฟอร์นันเดส ก็โดนใบแดง ถูกไล่ออกจากสนาม ในนาทีที่ 81 (จากการโดน 2 ใบเหลือง) ก็ทำให้ความชอบธรรมแทบไม่เหลือ
ว่ากันว่า เกมที่ทีมจะบุกไปเยือน “สิงห์ผงาด” แอสตัน วิลลา ของทาง อูไน เอเมรี กุนซือชาวสเปน ในเกม พรีเมียร์ลีก วันอาทิตย์นี้ ที่จะฟาดแข้ง 20.00 น. ตามเวลาประเทศไทย คือฟางเส้นสุดท้ายของ เอริก เทน ฮาก ถ้าหากแพ้ หลายสื่อเชื่อกันว่ากุนซือรายนี้จะตกเก้าอี้อย่างแน่นอน
ประกอบกับที่ สื่อที่มีความน่าเชื่อถือสูงจากค่าย ดิ แอธเลติก ระบุว่า ผู้บริหารของทีม มีนัดหารือกันในวันอังคารที่ 8 ตุลาคมนี้ ที่ กรุงลอนดอน หรือ ราวๆ 48 ชั่วโมงหลังเกมกับ “สิงห์ผงาด” แอสตัน วิลลา ที่ วิลลา ปาร์ค โดยจะมีบรรดาผู้บริหารนำโดยเจ้าของทีมอย่าง เซอร์จิม, เซอร์เดฟ เบรลสฟอร์ด รวมถึงโอมาร์ แบร์ราดา, แดน แอชเวิร์ธ และ เจสัน วิลค็อกซ์ ที่จะเข้าประชุมในครั้งนี้ด้วย
มันช่างน่าติดตามเหลือเกินกับบทสรุปในเกมวันอาทิตย์นี้ รวมถึงบทสรุปในวันอังคารหน้า จากการประชุมของเหล่าผู้บริหาร ว่าตำแหน่งกุนซือของ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะคงเป็นชื่อของ เอริก เทน ฮาก อยู่หรือไม่ หรือจะถูกลบโดย อูไน เอเมรี เดี๋ยวได้รู้กัน
ที่มา : https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premierleague/2818312