“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล สร้างสถิติไร้พ่ายที่แอนฟิลด์ 64 เกม หลังเอาชนะ “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี ขาดลอย 3-0 ในศึกพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ คืนวันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน พร้อมเก็บแต้มทาบจ่าฝูง สเปอร์ส
พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
ลิเวอร์พูล 3-0 เลสเตอร์ ซิตี้
เจอร์เกน คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล ขาด จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่ยังบาดเจ็บ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซึ่งติดโควิด-19 โดยในแนวรุกส่ง โรแบร์โต ฟิร์มิโน ยืนศูนย์หน้า ประสานงาน ซาดิโอ มาเน และ ดิโอโก โจตา ต้อนรับ เลสเตอร์ ซิตี ที่มี เจมี วาร์ดี, เจมส์ แมดดิสัน และ ฮาร์วีย์ บาร์นส เป็นทีเด็ดแนวรุก
ลิเวอร์พูล ทักทายจะแจ้งนาที 13 ดิโอโก โจตา โยกหลบ คริสเตียน ฟุคส์ แล้วอัดด้วยขวานอกเขต แคสเปอร์ ชไมเคิล นายทวาร ต้องออกแรงเซฟ ต่อมานาที 21 เจมส์ มิลเนอร์ กัปตันทีม เปิดเตะมุมฝั่งขวา จอนนี อีแวนส์ โหม่งสกัดเข้าประตูตัวเอง ขึ้นนำ 1-0
เลสเตอร์ ซิตี หวิดทวงคืนทันควัน นาที 24 เจมี วาร์ดี หักจากเขตโทษฝั่งซ้ายให้ ฮาร์วีย์ บาร์นส แปหลุดเสาไกล แชมป์เก่า ยังมีลุ้นประตูอยู่เป็นระยะๆ กระทั่งนาที 41 แอนดี โรเบิร์ตสัน แบ็กซ้าย เปิดโค้งๆ ให้ ดิโอโก โจตา ขวิดกระดอนพื้น หนีไปเป็น 2-0
เปิดฉากครึ่งหลัง เจ้าถิ่น เจอข่าวร้ายนาที 54 นาบี เกอิตา บาดเจ็บ ต้องเปลี่ยน เนโก วิลเลียมส์ ลงเล่นแทน ทว่าเกือบบวกเพิ่มอีกไม่กี่อึดใจ เจมส์ มิลเนอร์ ถูกขยับมายืนมิดฟิลด์ แทงให้ ซาดิโอ มาเน หลุดเดี่ยว แปเน้นๆ ด้วยขวา ติดมือ แคสเปอร์ ชไมเคิล บอลลอยโด่ง คริสเตียน ฟุคส์ ตามมาสกัดทิ้งบนเส้น
เกมเริ่มแลกกันดุเดือดจนถึง นาที 77 ทีมของ คล็อปป์ น่าตอกฝาโลงสุดๆ โรแบร์โต ฟิร์มิโน พลิกหลบ เวสลีย์ โฟฟานา เซ็นเตอร์แบ็ก ยิงลูกเรียดสวน แคสเปอร์ ชไมเคิล ชนเสา อย่างไรก็ตาม นาที 86 เจมส์ มิลเนอร์ เปิดเตะมุมด้านขวาให้ ฟิร์มิโน สะบัดเสียบมุมเสาไกล ย้ำชัย 3-0
จบเกม ลิเวอร์พูล เก็บเพิ่มเป็น 20 แต้ม เท่ากับจ่าฝูง ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ แต่ผลต่างลูกได้-เสียน้อยกว่า ขณะที่ เลสเตอร์ฯ มี 18 แต้ม เท่าเดิม หล่นอันดับ 4
รายชื่อ 11 ตัวจริง
ลิเวอร์พูล :อลิสสัน, โจเอล มาติป, ฟาบินโญ, แอนดี โรเบิร์ตสัน, เจมส์ มิลเนอร์, จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม, นาบี เกอิตา, เคอร์ติส โจนส์, โรแบร์โต ฟิร์มิโน, ซาดิโอ มาเน, ดิโอโก โจตา
เลสเตอร์ฯ : แคสเปอร์ ชไมเคิล, จอนนี อีแวนส์, คริสเตียน ฟุคส์, เวสลีย์ โฟฟานา, นัมปาลิส เมนดี, ยูริ ตีเลม็องส์, มาร์ค อัลไบรจ์ตัน, เจมส์ จัสติน, เจมี วาร์ดี, เจมส์ แมดดิสัน, ฮาร์วีย์ บาร์นส