เสือใต้ บาเยิร์น มิวนิก เปิดบ้านไล่ยำ ดุสเซลดอร์ฟ ผู้มาเยือนเละเทะ 5-0 พร้อมเก็บสามแต้มทิ้งห่าง ดอร์ทมุนด์ทีมตามถึง 10 แต้ม
การแข่งขันฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมนี ฤดูกาล 2019-20 ประจำวันเสาร์ที่ 30 พ.ค. 63 คู่ที่น่าสนใจ “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิก จ่าฝูงของตาราง เปิดสนามอัลลิอันซ์ อารีนา รับการมาเยือนของ ฟอร์ทูนา ดุสเซลดอร์ฟ อันดับ 16 ของตาราง
เปิดฉากครึ่งแรกมาถึงนาทีที่ 15 บาเยิร์นฯ ขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ โธมัส มุลเลอร์ เปิดบอลเข้าเขตโทษฝั่งขวา แซร์จ กนาบรี ตวัดเข้ากลางให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ซัดด้วยขวา และเป็น มาธิอัส ยอร์เกนเซน ผู้เล่นดุสเซลดอร์ฟ สกัดบอลเข้าประตูตัวเองไป
จากนั้นนาทีที่ 29 บาเยิร์นฯ หนีเป็น 2-0 จากจังหวะได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา โจชัว คิมมิช เปิดบอลเข้าเขตโทษ แบงฌาแมง ปาวาร์ ขึ้นโหม่งเข้าไปตุงตาข่าย
ถึงนาทีที่ 43 บาเยิร์นฯ นำห่างเป็น 3-0 เมื่อ ดาวิด อลาบา จ่ายบอลให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี แตะต่อเข้าเขตโท๋ษฝั่งขวาให้ โจชัว คิมมิช หักเข้ากลางให้ โธมัส มุลเลอร์ จ่ายต่ออีกทีให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ยิงเข้าไปอย่างเฉียบขาด
จบครึ่งแรก บาเยิร์น มิวนิก ออกนำ ฟอร์ทูนา ดุสเซลดอร์ฟ ไปก่อนถึง 3-0
กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 50 บาเยิร์นฯ หนีไปไกลเป็น 4-0 จากจังหวะที่กองหลังดุสเซลดอร์ฟสกัดบอลกันไม่ขาดมาเข้าทาง แซร์จ กนาบรี ในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจ่ายเข้ากลางให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ล้มตัวยิงเข้าไปเลย
จากนั้นนาทีที่ 52 บาเยิร์นฯ ได้ประตูโขยกหนีเป็น 5-0 จากจังหวะที่ อัลฟอนโซ เดวีส์ อาศัยความขยันไปป็มแย่งบอลจาก เควิน สโตเกอร์ ก่อนพาบอลแหวกผ่านอีก 3 คนเข้าไปยิงตุงตาข่าย
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม บาเยิร์น มิวนิก เปิดบ้านไล่ยำ ฟอร์ทูนา ดุสเซลดอร์ฟ ขาดลอย 5-0 เก็บเพิ่มเป็น 67 คะแนน นำเป็นจ่าฝูงต่อไป ทิ้งห่าง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ อันดับ 2 ไปเป็น 10 แต้มแล้ว แต่แข่งมากกว่า 1 นัด
รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้ง 2 ทีม
บาเยิร์น มิวนิก:มานูเอล นอยเออร์ (GK), แบงฌาแมง ปาวาร์, ลูคัส เอร์นานเดซ, ดาวิด อลาบา, อัลฟอนโซ เดวีส์, โจชัว คิมมิช, เลออน โกเรตซ์กา, แซร์จ กนาบรี, คิงสลีย์ โกมาน, โธมัส มุลเลอร์ และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี
ฟอร์ทูนา ดุสเซลดอร์ฟ: ฟลอเรียน คาสเทนไมเออร์ (GK), มาธิอัส ยอร์เกนเซน, อันเดร ฮอฟฟ์มันน์, นิโก กรีซเซลมันน์, เอริค ธอมมี, อดัม บอดเซค, อัลเฟรโด โมราเลส, มาธิอัส ซิมเมอร์มันน์, เควิน สโตเกอร์, เคนัน คารามัน และ สตีเวน สเคอร์ซิบสกี