หงส์ ฟื้นเก็บชัยในรอบ 6 เกม บุกเชือดไก่คาเล้า

 

“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล สะกดคำว่าชนะในรอบ 6 เกมล่าสุดหลังบุกเชือด“ไก่เดือยทอง” ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 3-1 จากผลงานของ โรแบร์โต ฟิร์มิโน, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และ ซาดิโอ มาเน 

พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ 2020-21 
สเปอร์ส 1-3 ลิเวอร์พูล

เจอร์เกน คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล ขาด ฟาบินโญ บาดเจ็บกล้ามเนื้อ ถอย จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กับ โจเอล มาติป คุมแนวรับ วาง โรแบร์โต ฟิร์มิโน, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ซาดิโอ มาเน เป็น 3 ประสานแนวรุก เยือน ท็อตแนม ฮอตสเปอร์

ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ชวดขึ้นนำนาที 3 ซอน เฮือง มิน หลุดเดี่ยว แล้วแปด้วยซ้ายยัดเสาแรก แต่ถูก VAR ริบคืน เนื่องจากล้ำหน้า ลิเวอร์พูล ตอบโต้นาที 24 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ บรรจงหยอดให้ ซาดิโอ มาเน จิ้มด้วยขวาตรงตัว ฮูโก โยริส นายทวาร

ขึงอยู่นาน ทีมเยือนก็ปลดล็อกยิงประตูแรกได้ใน นาที 45+4 เมื่อเบน เดวีส ดักล้ำหน้าพลาด เป็นเหตุให้ ซาดิโอ มาเน หลุดเดี่ยวตรงฝั่งซ้าย แล้วใส่พานให้ โรแบร์โต ฟิร์มิโน ชาร์จจ่อๆ ขึ้นนำ 1-0

เริ่มครึ่งหลัง หงส์แดงมาได้ประตูที่ 2 อย่างรวดเร็วในนาที 47 ฮูโก โยริส ปัดลูกยิงของ ซาดิโอ มาเน ไม่พ้นอันตราย เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ อัดดาบสอง หนีไปเป็น 2-0

เจ้าถิ่น จุดประกายความหวัง นาที 49 สตีเวน เบิร์กไวจ์น ไหลย้อนมาแถวสอง ปิแอร์-เอมิล ฮอยจ์เบิร์ก สับไกด้วยขวาติดไซด์ก้อย เสียบมุมสุดสวย ไล่มาเป็น 1-2 แถมรอดไม่เสียประตูเพิ่ม ในนาที 56 หลังโมฮาเหม็ด ซาลาห์ ส่งบอลตุงตาข่าย ผู้ตัดสินตรวจสอบภาพรีเพลย์ พบว่า โรแบร์โต ฟิร์มิโน แฮนด์บอลเสียก่อน VAR จึงริบประตูคืน

เข้าสู่นาที 65 แชมป์เก่า ทิ้งห่าง 3-1 เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แบ็กขวา เปิดล้นมาเสาสอง โจ โรดอน ปล่อยบอลกระดอนพื้น ตั้งให้ ซาดิโอ มาเน ยิงเผาขน จบเกม ลิเวอร์พูล หยุดสถิติไม่ชนะใคร 5 เกมรวด เฉพาะลีกสูงสุด มี 37 แต้ม แซง เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด คืนอันดับ 4 ส่วน สเปอร์ส มี 33 แต้ม จาก 19 นัด อยู่ที่ 6

รายชื่อ 11 ตัวจริง
สเปอร์ส : ฮูโก โยริส, เอริค ไดเออร์, เบน เดวีส, โจ โรดอน, ปิแอร์-เอมิล ฮอยจ์เบิร์ก, ตองกีย์ เอ็นดอมเบเล, แม็ตต์ โดเฮอร์ตี, แซร์จ ออริเยร์, แฮร์รี เคน, ซอน เฮือง มิน, สตีเวน เบิร์กไวจ์น

ลิเวอร์พูล :อลิสสัน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, โจเอล มาติป, แอนดี โรเบิร์ตสัน, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, ติอาโก, เจมส์ มิลเนอร์, จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม, โรแบร์โต ฟิร์มิโน, ซาดิโอ มาเน, โมฮาเหม็ด ซาลาห์